เผาโรงละครวอด,เวลเบ็ค-โกรสส์ คู่แสบปราบผี! 5 ข้อ แมนยู บู่ต่อพ่าย ไบรท์ตัน
ไม่ผิดความคาดหมายจริงๆเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ปราชัยให้กับ ไบรท์ตัน คารัง 3-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ย.เนื่องจากสถิติในระยะหลังบ่งชี้ว่า ผีแดง เป็นรอง นกนางนวล มาโดยตลอด
ถึงขณะนี้ ผีแดง จึงแพ้ไปสามเกมแล้วจากการออกสตาร์ตซีซั่นใหม่ห้านัดเพิ่มความอัปยศต่อจากนัดก่อนที่ออกไปแพ้ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์เดียวกัน แถมกลางสัปดาห์นี้ เอริค เทน ฮาก ต้องพาทีมบุกไปเยือน บาเยิร์น ในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก อีกจึงถือเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่งว่ากุนซือดัตช์จะพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้หรือไม่
1. ผีส่ง ฮอยลุนด์,เรกีลอน ประเดิมตัวจริง
เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้งาน ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าตัวใหม่ออกสตาร์ตเป็นเกมแรกหลังจากนัดก่อนศูนย์หน้าทีมชาติ เดนมาร์ค ลงเล่นเป็นตัวสำรองนัดออกไปแพ้ อาร์เซน่อล
รวมแล้วนายใหญ่ดัตช์ปรับโผตัวจริงสามรายโดยใช้งาน เซร์คิโอ เรกีลอน แบ็คซ้ายที่ยืมมาจาก สเปอร์ส ลงเล่นแทน ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บส่งผลให้ ดีโอโก้ ดาโลต์ หันไปรับบทแบ็คขวาแทน อารอน วาน บิสซาก้า ที่ป่วย และหล่นไปนั่งสำรองเช่นเดียวกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาลสำหรับปีกขวาซึ่ง อันโตนี่ ถูกปล่อยให้ผละไปเคลียร์คดีทำร้ายอดีตแฟนสาว บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ทำหน้าที่แทน ขณะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้ลงบู๊เคียงข้าง กาเซมีโร่ ส่วน เจดอน ซานโช่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหลังโดนแบนออกจากทีมอย่างไม่มีกำหนด
สำหรับปีกขวาซึ่ง อันโตนี่ ถูกปล่อยให้ผละไปเคลียร์คดีทำร้ายอดีตแฟนสาว บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ทำหน้าที่แทน ขณะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้ลงบู๊เคียงข้าง กาเซมีโร่ ส่วน เจดอน ซานโช่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหลังโดนแบนออกจากทีมอย่างไม่มีกำหนด
2. นางนวลปรับใหญ่เปลี่ยนหกตำแหน่ง
โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ผู้จัดการทีม ไบรท์ตัน ปรับโผ 11 คนแรกจากเกมเปิดรังถล่ม นิวคาสเซิ่ล 3-1 มากถึงหกรายโดยเฉพาะกองหน้า อีวาน เฟอร์กูสัน ซึ่งกระทุ้งแฮททริคให้ทีมได้ไม่ฟิตพอที่จะลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ยังมีชื่อนั่งในซุ้มข้างสนามเช่นเดียวกับ บาร์ท แฟร์บรุกเก้น , บิลลี่ กิลมอร์ , อันซู ฟาติ และ ชูเอา เปโดร
นอกจากนี้ เพอร์วิส เอสตูปิยาน กับ ซอลลี่ มาร์ช หายไปจากทีม ขณะที่หกนักเตะที่ได้ออกสตาร์ตเกมนี้ประกอบไปด้วย เจสัน สตีล , ทาริก แลมพ์ตีย์ , มาห์มู้ด ดาฮูด , อดัม ลัลลาน่า , แดนนี่ เวลเบ็ค และ ซิมง อาดินกร้า
3. เวลเบ็ค ของแสลงผีแดง
แม้ทีมของ เด แซร์บี้ จะไม่มี เฟอร์กูสัน ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ เวลเบ็ค สามารถทดแทนได้อย่างน่าประทับใจ แถมพังประตูให้ นกนางนวล บุกมานำทีมเก่าได้ในครึ่งแรกด้วยจากการสับไกนาทีที่ 20
ถึงขณะนี้ อดีตกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด จึงกลายเป็นจอมแสบของทีมเก่าอย่างเต็มตัวแล้วเนื่องจากประตูนี้เป็นประตูที่สี่แล้วที่เขาเช็กบิล เร้ด เดวิลส์ ได้นับตั้งแต่ย้ายออกไป
และแน่นอนว่า เวลเบ็ค ถือเป็นอดีตขุนพล ผีแดง ที่ซัดประตูทีมเก่าของตัวเองได้มากที่สุดเช่นกันสำหรับเกมใน พรีเมียร์ลีก
4. โกรสส์ ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด
เป็นอีกเกมที่ เวลเบ็ค ใช้กฏยิงประตูทีมเก่า หากแต่ ปาสกาล โกรสส์ แสบกว่าหลายเท่าหลังส่องให้ ไบรท์ตัน หนีห่างเจ้าบ้าน 2-0 ในต้นครึ่งหลังนาทีที่ 53 บีบให้สถานการณ์ของ เร้ด เดวิลส์ ย่ำแย่ลงไปอีก
สำหรับประตูที่ว่านับเป็นลูกที่ 7 แล้วที่มิดฟิลด์ชาวเมืองไส้กรอกพังตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จากการดวลกัน 11 นัดซึ่งชัดเจนว่าหมอนี่ชื่นชอบการบู๊กับทีมดังแห่ง เธียร์เตอร์ ออฟ ดรีม อย่างแท้จริง
จาก 7 ประตูที่ว่าของ โกรสส์ 4 ประตูอุบัติขึ้นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซะด้วย และทำให้เขามีสถิติในแง่นี้เป็นรองแค่ โม ซาลาห์ กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งสอยตาข่ายเกม พรีเมียร์ลีก ในรังของ ผีแดง ได้มากที่สุด 5 ประตูเท่ากัน
ขณะเดียวกัน มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าเจ้าบ้านมีสถิติที่เลวร้ายอย่างแท้จริงในเกมนี้เนื่องจากเขาได้ลองเข่นมากถึง 9 ครั้งซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดของเขาในหนึ่งเกมของ พรีเมียร์ลีก ด้วย แต่ไม่อาจส่งบอลเข้าปะทะตาข่ายได้หลังจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เคยฝากผลงานที่น่าผิดหวังเอาไว้ในเกมบู๊กับ เบิร์นลีย์ เมื่อเดือนต.ค.2016 ซึ่งหัวหอกสวีดิชได้ง้างทั้งหมด 12 ครั้ง แต่ไม่มีประตูตอบแทนเช่นกัน
5. แตกต่างที่ความเด็ดขาด
หลังจบเกมแพ้ ไบรท์ตัน เทน ฮาก ชี้ว่านักเตะ ผีแดง จำเป็นต้องปรับปรุงการยิงประตูอย่างหนักเนื่องจากด้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดทั้งๆที่มีโอกาสสับไกมากกว่า
จบครึ่งแรก สถิติชี้ว่า ผีแดง เป็นรองในแง่การครองบอล 42:58% ก็จริง แต่พวกเขาได้ง้างยิงมากกว่าทีมเยือน 8:3 ครั้ง ทว่าทั้งสองทีมส่งบอลเข้ากรอบ 1 ครั้งเท่ากันซึ่งลงเอยโดยที่ทีมเยือนบุกมานำก่อน 1-0
จากนั้นหลังจบเกมซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ยับ 3-1 ทีมของ เทน ฮาก ยังครองบอลด้อยกว่า 43:57% แต่พวกเขาได้ยิงมากกว่ารวม 14:10 ครั้ง ทว่าส่งบอลเข้ากรอบเป็นรอง นกนางนวล 4:8 ครั้งจึงพ่ายไปอย่างบอบช้ำด้วยประการฉะนี้
และที่สำคัญ ไบรท์ตัน กลายเป็นทีมที่ข่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างชัดเจนแล้วเนื่องจากพวกเขาเอาชนะ ผีแดง ในเกมลีกได้ตลอดสี่นัดหลังซึ่งแม้ เทน ฮาก จะพาทีมเขี่ยคู่ปรับรายนี้ตกรอบตัดเชือก เอฟเอคัพ ซีซั่นก่อนได้ แต่เป็นการดวลลูกโทษชนะหลังเสมอกัน 0-0
7 พ.ค.2022 : ไบรท์ตัน 4- แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (พรีเมียร์ลีก)
7 ส.ค.2022 : แมนฯ ยูไนเต็ด 1- ไบรท์ตัน 2 (พรีเมียร์ลีก)
23 เม.ย.2023 : ไบรท์ตัน 0- แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (เอฟเอคัพ)
4 พ.ค.2023 : ไบรท์ตัน 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (พรีเมียร์ลีก)
16 ก.ย.2023 : แมนฯ ยูไนเต็ก 1- ไบรท์ตัน 3 (พรีเมียร์ลีก) ดูบอลสดฟรีออนไลน์