ไม่ชนะ ฟูแล่ม เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แย่แน่!ย้อนรอยจุดจบอดีต 6 กุนซือ เชลซี
เชลซี โฉมใหม่ในกำมือของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ออกสตาร์ตซีซั่นได้อย่างเลวร้ายผิดความคาดหมายเนื่องจากพวกเขาเก็บได้แค่ห้าแต้มเท่านั้นจากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก หกนัดแรก
ไม่เพียงเกมล่าสุด สิงห์บลูส์ จะแพ้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน หากแต่พวกเขายังประสบกับปัญหามีนักเตะล้มเจ็บนับสิบชีวิตด้วยนอกเหนือจากผลงานสอยตาข่ายที่ไม่เอาอ่าว
ด้วยเหตุนี้ กูรูหลายรายจึงมองว่าเกมบุกไปเยือน ฟูแล่ม ในวันจันทร์นี้อาจเป็นเกมชี้ชะตากุนซือเลือดฟ้าขาวก็เป็นได้อาทิ เอียน ไรท์ ซึ่งเชื่อว่า โปเช็ตติโน่ มีแววตกเก้าอี้หากไม่อาจพาเศรษฐีลอนดอนกำชัยได้ในสองเกมหน้าที่พวกเขาต้องออกไปเยือน ฟูแล่ม และ เบิร์นลีย์ เนื่องจากนัดต่อไป เชลซี จะเจอกับงานช้างต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล สโมสรร่วมเมือง
จะอย่างไรก็ตาม “พอช” จะได้คุมทีม เชลซี อีกนานแค่ไหน มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่สำหรับกุนซือที่อยู่ในตำแหน่งก่อนหน้าเขาหกรายมีจุดจบอย่างไร เราจะพาทุกท่านกลับไปรื้อฟื้นอดีตกัน
– แกรม พ็อตเตอร์
ความพ่ายแพ้ที่มีต่อ วิลล่า ของ โปเช็ตติโน่ ทำให้หลายคนอดเป็นห่วงผู้จัดการทีมอาร์เจนไตน์ไมได้เนื่องจาก พ็อตเตอร์ ตกเก้าอี้หลังคุมทีมแพ้ สิงห์ผงาด คารัง 2-0 เมื่อเดือนเม.ย.จากฝีเท้าของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ และ จอห์น แม็คกินน์
“เราเป็นรองทุกอย่าง” พ็อตเตอร์ เอ่ยหลังเกมซึ่งเป็นการแถลงข่าวหนสุดท้ายของเขาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
“เราเสียประตูแรกให้พวกเขาอย่างน่าผิดหวัง เราจำเป็นต้องเล่นให้ดีกว่านี้ มีแง่ดีในเกมมากมายทั้งการเล่นเกมรุก และการยิงประตู หากคุณมองดูสถิติ มันเป็นเรื่องที่ดี”
“ผมเข้าใจดีว่าเมื่อคุณแพ้ในบ้าน ผู้คนก็ย่อมโมโห ผิดหวัง และโกรธ ไม่มีแฟนบอลคนไหนแฮปปี้กับอันดับในตารางของเรา และเราต้องทำงานหนักเพื่อพัฒนา”
จากนั้นในวันรุ่งขึ้น พ็อตเตอร์ ก็พ้นไปจากตำแหน่งขณะที่ เชลซี รั้งอันดับ 10 ของตาราง ถึงกระนั้นพวกเขากำชัยได้แค่นัดเดียวจาก 10 นัดในยุคของ บรูโน่ ซัลตอร์ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด สองกุนซือขัดตาทัพกระทั่ง โปเช็ตติโน่ ได้เข้ามาคุมทีม
– โธมัส ทูเคิ่ล
พ็อตเตอร์ เป็นผู้จัดการทีมถาวรคนที่สองที่ถูกปลดในปีแรกที่ ท็อดด์ โบลีห์ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรโดยก่อนหน้านั้นเจ็ดเดือน โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ที่พาทีมซิวถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก โดนเขี่ยทิ้งเป็นรายแรก
แม้เจ้าของชาวอเมริกันจะสนับสนุนการจ่ายตลาดให้กับ ทูเคิ่ล โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ เวสลีย์ โฟฟาน่า เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนครั้งใหญ่ แต่กุนซือด๊อยทช์พาทีมเก็บได้แค่ 10 แต้มจากหกเกมแรกของลีก อีกทั้งฟอร์มการเล่นก็ไม่น่าประทับใจกระทั่งในเกมฟุตบอลยุโรปนัดพ่ายให้กับ ดินาโม ซาเกร็บ ก็ส่งผลให้ ทูเคิ่ล กระเด็นออกจากสโมสร
“ผมโกรธตัวเอง ผมโมโหฟอร์มการเล่น” ทูเคิ่ล ระบุหลังจาก มิสลาฟ ออร์ซิช ซัดประตูชัยที่ สตาดิโอน มักซิเมียร์
“มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานของเรา มันไม่เด็ดขาดพอ มันไม่ดุดันพอ มันไม่มีความมุ่งมั่นมากพอ มันไม่ดีพอทั้งทีมและบุคคล ด้วยเหตุนี้เราจึงแพ้ในวันนี้”
แม้จะประสบกับความปราชัยที่ โครเอเชีย แต่กุนซือชาวเยอรมันได้กลับมารับงานในบ้านเกิดกับ บาเยิร์น มิวนิค และพาทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ได้สำเร็จ แถมในซีซั่นนี้เขาพาทีมสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกได้ด้วย
– แฟร้งค์ แลมพาร์ด
แลมพาร์ด เจองานหนักในซีซั่นแรกจากที่ เชลซี ถูกแบนห้ามซื้อนักเตะ แต่หลังจากอุทธรณ์เป็นผลสำเร็จ โรมัน อบราโมวิช อดีตเจ้าของทีมก็จัดหนักให้เขาตามระเบียบ
อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ได้เงินเสริมทัพมากกว่า 200 ล้านปอนด์เซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ ก่อนที่เขาจะโดนเด้งในเดือนม.ค.โดย เชลซี รั้งอันดับเก้าของตาราง
ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึงในเกมบุกไปแพ้ เลสเตอร์ 2-0 โดย วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ กับ เจมส์ แมดดิสัน ตะบันให้ทั้งสองทีมมีแต้มห่างกันเก้าแต้ม แต่หลังแยกทางกับ แลมพาร์ด ทูเคิ่ล ก็เข้ามาพา สิงห์บลูส์ ปีนอันดับตารางแซงหน้า เดอะ ฟ็อกซ์ ขึ้นสู่อันดับสี่
“เราแพ้ทีมที่ดีกว่า ฟอร์มของเราเชื่องช้า และขาดความมั่นใจ ขณะที่ เลสเตอร์ เล่นกันด้วยความมั่นใจเหมือนที่เรามีเมื่อเดือนก่อน” แลมพาร์ด ให้สัมภาษณ์
“พวกเขาคมกว่าเรา พวกเขาวิ่งมากกว่าเรา และพวกเขาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่แท้จริง พวกเขากำลังเข้าฝัก ขณะที่เราฟอร์มตก”
– เมาริซิโอ ซาร์รี่
ต่างไปจากนายใหญ่หลายรายที่เข้ามารับงานต่อจากเขาเนื่องจาก ซาร์รี่ พ้นไปจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังพาทีมกำชัยในเกมสุดท้ายของเขาซึ่ง เชลซี ถล่ม อาร์เซน่อล 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศถ้วย ยูโรปาลีก ปี 2019 ที่ บากู , อาเซอร์ไบจาน
หลังเสมอกันแบบไร้สกอร์ในครึ่งแรก สิงห์บลูส์ ก็มาได้สามประตูในเวลา 20 นาทีจาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ , เปโดร และ เอแด็น อาซาร์ ก่อนที่ อเล็กซ์ อิโวบี้ จะตีไข่แตกให้ทีม ปืนใหญ่ แต่ อาซาร์ กดเม็ดสองของตัวเองปิดเกมได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี อดีตนายใหญ่ทีม นาโปลี มีผลงานในลีกที่ขึ้นๆลงๆ และตกเป็นข่าวโดนปลดเรื่อยมาจนในที่สุดเขาก็กลับอิตาลีไปพาทีม ยูเวนตุส ซิวแชมป์ เซเรียอา ในซีซั่นเดียวของเขากับทีม ม้าลาย โดยปัจจุบันเขาสวมบทนายใหญ่ทีม ลาซิโอ
“เราคุยกันหลังนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก เมาริซิโอ แสดงความชัดเจนว่าเขากระหายกลับประเทศของเขา เหตุผลของเขาคือเขาอยากกลับไปทำงานในอิตาลี เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว และพ่อแม่ที่สูงอายุ” มาริน่า กรานอฟสกาย่า ผู้อำนวยการ เชลซี ให้สัมภาษณ์
“เมาริซิโอ อำลา เชลซี พร้อมกับคำขอบคุณจากเราสำหรับการทำงานของเขาและผู้ช่วยในระหว่างที่เขาเป็นหัวหน้าโค้ชของเรา และพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก และคว้าอันดับสามของ พรีเมียร์ลีก เราขอแสดงความยินดีกับเขาสำหรับบทบาทใดๆก็ตามใน เซเรียอา และขออวยพรให้เขาโชคดีในอนาคต”
– อันโตนิโอ คอนเต้
เป็นเช่นเดียวกับ ซาร์รี่ ที่ชนะในเกมสุดท้ายของเขากับสโมสร แต่การพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ไม่อาจช่วยให้เขารอดพ้นจากการโดนปลด
เชลซี ได้แชมป์ลีกภายใต้การคุมทีมของกุนซืออิตาเลี่ยนในซีซั่น 2016/17 แต่ซีซั่นถัดมาพวกเขาได้อันดับห้า และพลาดโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก
หลังพาทีมคว้าแชมป์ได้ คอนเต้ ก็ใช้เงินก้อนโตเกินกว่า 150 ล้านปอนด์เสริมทัพ แต่นักเตะใหม่หลายรายสร้างชื่อไม่สำเร็จไม่ว่าจะเป็น ติเยมูเอ้ บากาโยโก้ , อัลบาโร่ โมราต้า , แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ และ ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า จะมีก็แต่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ รายเดียวที่ไปได้สวย
นายใหญ่ชาวเมืองพิซซ่าอำลาทีมหลังจากพวกเขาเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 1-0 ในนัดชิงดำ เอฟเอคัพ จากประตูของ เอแด็น อาซาร์ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความพ่ายแพ้ที่มีต่อ นิวคาสเซิ่ล 3-0 ในนัดสุดท้ายของลีกส่งผลให้การคุมทีมของเขาสิ้นสุดลง
“เชลซี และ อันโตนิโอ คอนเต้ แยกทางกันแล้ว ตลอดระยะเวลาของ อันโตนิโอ กับสโมสร เราได้แชมป์ลีกเป็นสมัยที่หก และได้แชมป์ เอฟเอคัพ สมัยที่แปด รวมทั้งสโมสรสร้างสถิติชนะ 30 จาก 38 นัดในซีซั่นของ พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับสถิติของสโมสรชนะในลีกต่อเนื่อง 13 นัด เราขออวยพรให้ อันโตนิโอ ประสบกับความโชคดีในอนาคต”
– โชเซ่ มูรินโญ่
สองวาระในการคุมทีม เชลซี ของ มูรินโญ่ ล้วนประสบความสำเร็จ แต่ทั้งสองหนก็จบลงอย่างไม่สวยโดยคราวแรกในปี 2007 เขาตกเก้าอี้หลังพาทีมเสมอกับทั้ง แบล็คเบิร์น และ โรเซนบอร์ก ขณะที่อีกแปดปีให้หลัง เลสเตอร์ ทำให้เขาถูกอัปเปหิ
เชลซี เปิดฉากซีซั่น 2015/16 ในฐานะแชมป์เก่าได้อย่างเลวร้ายโดยพวกเขาเสมอกับ สวอนซี ในบ้าน 2-2 แถมนายใหญ่โปรตุกีสมีปัญหากับแพทย์ประจำทีม เอวา การ์เนียโร่ ด้วย กระทั่งต้นเดือนธ.ค.สิงห์บลูส์ ก็อยู่ห่างจากโซนตกชั้นแค่แต้มเดียว แถมต้องบู๊กับ เลสเตอร์ ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง
ประตูจาก เจมี่ วาร์ดี้ กับ ริยาด มาห์เรซ แสดงให้เห็นว่า เดอะ ฟ็อกซ์ ไม่ได้ฟลุ๊คแม้ โลอิก เรมี่ จะตีไข่แตกได้ มันก็ไม่เพียงพอสำหรับทีมเมืองกรุง เลสเตอร์ ขยับนำเป็นจ่าฝูง ขณะที่ มูรินโญ่ โดนไล่ออกโดยมี กุส ฮิดดิ้ง ทำหน้าที่คุมทีมแบบขัดตาทัพไปจนจบซีซั่น
“ผมไม่คิดว่าพวกเขาสามารถรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นนักเตะชั้นยอดหรือว่าพวกเขาสามารถรู้สึกได้ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ พวกเขาต้องดูนักเตะของ เลสเตอร์ เพื่อให้รู้ถึงความเป็นนักเตะชั้นยอด และเป็นสตาร์” เฮียมู แขวะลูกทีม
“พวกเขาต้องมองไปที่ ซันเดอร์แลนด์ และ วัตฟอร์ด พร้อมทั้งบอกว่า “เราอยู่ในระดับเดียวกัน ฉันไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ ฉันไม่ใช่แชมป์โลก ฉันไม่ใช่แชมป์ พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับเดียวกับพวกนาย”ดูบอลออนไลน์